ผมทิ้งตัวลงบนโซฟา คว้ารีโมทกดเปิดทีวี
.
.
.
เสียงดนตรีประกอบรายการดังขึ้น แสงไฟสว่างวาบ
พิธีกร : สวัสดีครับ
กลับมาพบกับผมในรายการ "สนทนาประสาสุนัค"กับผม สุนัค มรรคการกลัด
ในช่วงเดือนนี้มีข่าวของครอบครัว
ครอบครัวนึงที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ไม่น่าเชื่อว่า
หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาทุกเช้า ก็จะได้เห็นภาพของพวกเขาขึ้นหน้า 1
ไม่ว่าจะเปิดทีวีไปที่ไหน เราก็จะได้เห็นข่าวของพวกเขา แต่วันนี้
เราเป็นที่แรก ที่เขาจะยอมเปิดอกพูดคุยกับเราในทุกเรื่องราว
และข่าวคราวของครอบครัวเขา ขอเสียงปรบมือต้อนรับคุณแพนด้า แซ่ซ้อง ครับ
แพนด้าเดินออกมาจากหลังฉากเวที ก้าวลงมาตามขั้นบันได
นักข่าวและช่างภาพที่อยู่ในสตูดิโอรัวชัตเตอร์ไม่ยั้งราวกับเป็นทหารที่อยู่
ท่ามกลางสมรภูมิอันดุเดือด
พิธีกร : สวัสดีครับ คุณแพนด้า
แพนด้า : สวัสดีครับ คุณสุนัค
พิธีกร : ขอบคุณมากนะครับ ที่ให้เกียรติรายการของเราในการสัมภาษณ์เป็นที่แรกของประเทศ
แพนด้า : ผมก็ต้องขอบคุณทางคุณสุนัคกับทีมงานเหมือนกันครับ ที่ให้ผมได้มีโอกาสชี้แจง และตอบคำถามต่างๆเสียที
พิธีกร : แหม.. ถ่อมตัวไปนะครับ คุณแพนด้า
ตอนนี้ทั่วบ้านทั่วเมืองใครๆก็อยากสัมภาษณ์คุณทั้งนั้น ถ้าอย่างนั้น
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมว่า
เรามาเข้าพูดคุยกันถึงเรื่องราวต่างๆที่หลายตัวอยากทราบกันดีกว่าครับ
แพนด้า : ครับ เชิญคุณสุนัคเลยครับ
พิธีกร :
ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงความยินดีกับคุณแพนด้าที่ได้ลูกสาวที่น่ารัก
ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่สนใจของสังคม
ผมอยากให้คุณแพนด้าเล่าถึงวันที่ภรรยาคุณคลอดลูกสาวหน่อยครับ
แพนด้า : เอ่อ..(นิ่งไปสักพัก) ความจริงเรื่องนี้ ถามผมก็ไม่ค่อยถูกนะครับ เพราะตอนที่ภรรยาผมคลอดลูก ผมไม่ได้อยู่ด้วยนะครับ
พิธีกร : อ้าว.. แล้วคุณอยู่ที่ไหนล่ะครับ
แพนด้า : ผมกับภรรยาถูกจับแยกกันอยู่น่ะครับ (น้ำตาคลอ)
เสียงผู้ชมในห้องส่ง : อู้ว……………
พิธีกร : โอ้ว..
ผมต้องแสดงความเสียใจด้วยนะครับ (หันหน้าเข้าหากล้อง) และนี่แหละครับ
คืออีกมุมนึงที่สังคมยังไม่เคยรู้ นี่เป็นความรู้สึกของผู้เป็นพ่อที่น่า
เห็นใจมากเลยทีเดียว (หันกลับมาหาแพนด้า)
เพื่อความสบายใจของคุณแพนด้านะครับ ผมว่า
ตอนนี้เปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่า ถ้าอย่างนั้น
ผมอยากทราบความรู้สึกแรกที่คุณรู้ว่า ภรรยาคุณคลอดลูกสาวน่ะครับ
แพนด้า :
วินาทีที่ผมได้รับทราบเรื่องลูกของผม ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่ทราบนะครับ
ว่าเป็นลูกสาวหรือลูกชาย ..ผมต้องบอกว่า
ความรู้สึกตอนนั้นมันบรรยายได้ลำบากมากครับ มันปะปนกันไปหมด ทั้งดีใจ
เสียใจ ตื่นเต้น แล้วก็หวาดหวั่น
พิธีกร : ปะปนกันยังไง ช่วยชี้ให้ชัดๆหน่อยได้มั้ยครับ?
แพนด้า : ตอนที่ผมทราบข่าว
ผมดีใจมากนะครับที่รู้ว่า ผมได้เป็นพ่อสัตว์แล้ว แต่แล้วผมก็ต้องเสียใจ
เพราะพวกเขาไม่ยอมให้ผมได้พบกับลูก (น้ำตาไหล) ..ผมอยากจะพบกับลูกผมครับ
(ร้องไห้)
พิธีกร : (หันมาหากล้อง) นี่แหละครับ
ความโหดร้ายที่สังคมได้ทำไว้กับครอบครัวนี้ (ชำเลืองมองแพนด้าที่กำลัง
ร้องไห้)ผมว่าตอนนี้ให้คุณแพนด้าได้พักสักครู่นะครับ
แล้วเดี๋ยวเราจะกลับมาพูดคุยกับเขากันต่อครับ
ภาพบนจอโทรทัศน์ตัดเข้าโฆษณาปัญญาอ่อน ก่อนที่จะตัดกลับเข้ามาสู่รายการ
เสียงดนตรีประกอบรายการดังขึ้น แสงไฟสว่างวาบ
พิธีกร :
(หน้ามองกล้อง)ท่านยังอยู่กับรายการ "สนทนาประสาสุนัค"
ซึ่งวันนี้เรามีแขกรับเชิญเป็นคุณแพนด้าครับ
เมื่อซักครู่เราได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของการคลอดอาหมวย
ลูกสาวตัวแรกของเขาไปคร่าวๆแล้ว
ตอนนี้เราจะมาพูดคุยกันถึงความเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่เกิดขึ้นหลังจากการคลอด
อาหมวยกันครับ (หันกลับมาหาแพนด้า) อยากจะถามคุณแพนด้าซักนิดนึงครับ
เกี่ยวกับเรื่องการตั้งชื่อของอาหมวยหน่อยครับ ไม่ทราบว่า
คุณชอบชื่อไหนมากที่สุด
แพนด้า : ผมสามารถพูดออกทีวีได้หรือครับ? (ปาดน้ำตา)
พิธีกร : เอ่อ.. ทำไมหรือครับ? คือว่ารายการเราเป็นรายการสดน่ะครับ
แพนด้า : เอาเถอะ ไม่เป็นไร
ไหนๆผมก็บอกแล้วว่า วันนี้ผมอยากจะเปิดอกให้หมดทุกเรื่อง
ผมก็ขอแสดงความคิดเห็นแล้วกัน ใครจะคิดอย่างไร ผมก็ไม่ว่าอะไร (ปาดน้ำตาอีกครั้ง)
พิธีกร : ครับ เชิญเลยครับ ว่ากันตรงๆได้เลย
แพนด้า : ผมอยากทราบครับว่า
พวกคุณเคยถามความเห็นผมบ้างมั้ย? เรื่องลูกสาวของผมน่ะครับ
ถ้าคุณเป็นพ่อสัตว์เหมือนอย่างผม คุณจะว่าอย่างไรครับ คุณสุนัค?
พิธีกร : อืม.. อันนี้ก็พูดลำบากนะครับ
แพนด้า : ใช่มั้ยครับ? ถ้าคุณมีลูก คุณจะว่ายังไง ถ้าอยู่ๆก็มีคนแย่งกันตั้งชื่อลูกคุณ โดยไม่ถามคุณซักคำ?
พิธีกร : โอ๊ย.. เป็นผม ผมไม่ยอมหรอกครับ
แพนด้า : คุณยังไม่ยอมเลย แล้วผมล่ะครับ
หน้าลูกผมก็แทบจะไม่ได้เห็น เอะอะๆก็จับลูกผมไปตรวจ ขนตาดำแกขึ้น
พวกคุณก็เอาไปลงข่าว นี่ตาแกกำลังจะเปิด พวกเขาก็จ้องรอจะถ่ายกัน
ผมไม่แน่ใจว่า พอลืมตามาดูโลก แกจะเห็นหน้าพ่อ หน้าแม่
หรือว่ากระบอกเลนส์กับแฟลชก่อนกัน
พิธีกร : อืม.. น่าสนใจมากครับ ประเด็นนี้
แพนด้า :
เรื่องชื่อลูกสาวผมก็เหมือนกัน ทำไมต้องประกวดตั้งชื่อกันด้วย
แล้วเอาคณะกรรมการมาคัด ให้โหวตกันทั้งประเทศ
แถมยังเอารูปภาพพวกผมไปทำไปรษณียบัตรอีก
พิธีกร : ถ้าในแง่ตามกฏหมายสิทธิสัตวชน คุณเห็นว่า เรื่องนี้เป็นการกระทำที่คุกคามมั้ยครับ?
แพนด้า : กฏหมายอะไรนะครับ? สิทธิสัตวชนหรอ? อ๋อๆ ผมก็รู้สึกว่า พวกเขาคุกคามผมนะครับ (พยักหน้าเออออ)
พิธีกร : (แอบยิ้ม) แล้วเรื่องนี้คุณจะฟ้องมั้ยครับ?
แพนด้า : ฟ้องหรือครับ? (ครุ่นคิด) เอ่อ.. เรื่องนี้ผมคงต้องคุยกับฝ่ายกฏหมายก่อนนะครับ (ครุ่นคิด)
พิธีกร : แล้วคุณคาดว่าจะชนะมั้ยครับ?
แพนด้า : เอ่อ.. ผมแค่อยากเรียกร้องสิทธิสัตวชนน่ะครับ ผมอยากตั้งชื่อลูกของผมเอง
พิธีกร : แล้วถ้าพวกเขาฟ้องคุณกลับครับ?
แพนด้า : ฟ้องกลับว่าอะไรล่ะครับ?
พิธีกร : ก็เขาอาจจะบอกว่า ลูกสาวคุณเป็นบุคคลสาธารณะ คุณไม่ควรปิดกั้น อย่างสื่อมวลชนก็มีเสรีภาพของสื่อนะครับ
แพนด้า : พวกคุณอาจจะคิดว่า
ลูกสาวผมเป็นบุคคลสาธารณะ แต่ความจริงแล้ว ผมเป็นพ่อเขานะครับ
ผมกับภรรยาน่าจะมีสิทธิในตัวเขามากกว่าพวกคุณ และในความคิดผม
ลูกสาวผมก็ไม่ใช่ของสาธารณะด้วย (ขึ้นเสียง)
พิธีกร : โอว.. ใจเย็นๆนะครับ คุณแพนด้า
ผมเป็นสื่อมวลชนนะครับ (หันหน้าเข้าหากล้อง)
ผมว่า ตอนนี้เราให้คุณแพนด้าสงบสติสักครู่นึงนะครับ
แล้วเดี๋ยวเรากลับมาพบกันในช่วงหน้า พักสักครู่ครับ
ภาพบนจอโทรทัศน์ตัดเข้าโฆษณาปัญญาอ่อนตัวเดิม ก่อนที่จะตัดกลับเข้ามาสู่รายการ
เสียงดนตรีประกอบรายการดังขึ้น แสงไฟสว่างวาบ
พิธีกร : และนี่คือรายการ
"สนทนาประสาสุนัค" ในช่วงที่ 3 ครับ
เรายังอยู่กับบุคคลที่เป็นกระแสที่สุดในช่วงนี้ คุณแพนด้าครับ
(หันกลับมาหาแพนด้า) นอกจากประเด็นเรื่องลูกสาวคุณแล้ว
ยังมีอีกประเด็นที่สังคมให้ความสนใจนั่นก็คือ
เรื่องบ้านใหม่ของครอบครัวคุณที่มูลค่าถึง 60 ล้าน
เสียงผู้ชมในห้องส่ง : โอ้ว……………
แพนด้า :
ความจริงเรื่องบ้านนี่ผมไม่อยากพูดอะไรมากนะครับ
เพราะว่าผมเองก็ไม่ได้เป็นผู้เรียกร้อง
ประเด็นนี้ก็เหมือนเรื่องลูกสาวผมนั่นแหละครับ
ใครๆก็ไม่เคยถามความคิดเห็นจากผม พวกคุณสร้างบ้านให้ผมใหม่
แล้วให้ผมย้ายเข้าไป คิดเองเออเองว่า มันเหมาะสมกับผม เหมาะสมกับครอบครัวผม
พิธีกร : แล้วคุณไม่ชอบหรือครับ?
แพนด้า :
ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้วไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน? บรรพบุรุษของพวกเรา อยู่กลางดิน
กินกลางป่า ก็อยู่รอดมาได้ ทำไมต้องสร้างโดมหิมะอะไรให้ครอบครัวผมอยู่ด้วย
ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบหรอกนะ เพียงแต่ผมว่ามันก็ไม่ได้จำเป็นอะไร
พิธีกร : แต่บ้านคุณก็กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ไปเลยนะครับ
แพนด้า : ก็นั่นแหละครับที่ผมไม่ต้องการ
มันจะทำให้ใครต่อใครหมั่นไส้ผมและครอบครัวมากขึ้นกว่าเก่า แต่ถามจริงๆ
ที่พวกเขาค่อนขอดผมเรื่องนั้นเรื่องนี้ เขาเคยคิดหรือเปล่าว่า
เวลาจะทำอะไรกันมีใครมาสนใจผมมั้ย? อย่างที่ผมบอก คิดเองเออเอง
คิดกันไปเองว่าดี คิดไปเองว่าพวกผมจะชอบ แต่พวกเขาก็ไม่เคยสนใจผมจริงๆหรอก
คิดกันไปเองทั้งนั้น
พิธีกร
: (หันหน้ามองกล้อง)งั้นในวันนี้ครับ
เรามีอีกมุมมองนึงจากนักวิชาการเจ้าของโครงการบ้านใหม่ของคุณแพนด้าให้เกีย
รติโฟนอินเข้ามาในรายการเรา สวัสดีครับ อาจารย์ครับ
โฟนอิน : พ่อแม่พี่น้องต้องช่วยกัน ล่ารายชื่อพาผมกลับบ้าน…
พิธีกร : (ส่งซิกหาทีมงาน) เอ่อ..
รู้สึกว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับสัญญาณโทรศัพท์เล็กน้อยนะครับ
ขอเวลาทีมงานแก้ไขซักครู่นึง (ทีมงานส่งซิกกลับ)
ตอนนี้อาจารย์อยู่ในสายกับเราแล้วครับ สวัสดีครับอาจารย์ครับ
โฟนอิน : สวัสดีครับ
พิธีกร : อยากให้อาจารย์พูดถึงแนวคิดในการสร้างบ้านใหม่ของคุณแพนด้าหน่อยครับ
โฟนอิน :
โครงการนี้เป็นการประชุมร่วมกันภายในคณะกรรมการบริหารกิจการแพนด้าเพื่อความ
สงบสุข สันติ และสมานฉันท์ หรือ คบพสสส. นะครับ
เพราะเราอยากให้คุณแพนด้าได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
พิธีกร : แล้วที่คุณแพนด้าเขาบอกว่า ที่อยู่เก่าเขาก็ดีอยู่แล้วล่ะครับ
แพนด้า : อ่า.. คุณสุนัคครับ ผมไม่ได้บอกว่า บ้านเก่าผมดีนะครับ ผมแค่บอกว่า ไม่มีปัญหาอะไร
พิธีกร : ครับๆ นั่นล่ะครับ อาจารย์คิดว่าอย่างไรบ้างครับ
โฟนอิน : นั่นไงครับ คุณแพนด้าก็อยากได้บ้านใหม่
แพนด้า : ผมเปล่านะครับ
โฟนอิน :
ความจริงเราก็ปรึกษาคุณแพนด้าแล้วนะครับ แต่ไม่รู้ทำไม
คุณแพนด้าถึงออกมาเรียกร้อง แต่เราก็พิจารณาใน คบพสสส. แล้วว่า
การสร้างบ้านใหม่ให้คุณแพนด้าจะเป็นประโยชน์ที่สุด
แพนด้า : ประโยชน์กับพวกคุณละสิ จะงาบค่าก่อสร้างกันน่ะ
พิธีกร : คุณแพนด้า ว่ายังไงนะครับ
แพนด้า : เปล่าครับ ผมไม่ได้พูดอะไร
โฟนอิน : ผมได้ยินนะ คุณแพนด้า นี่มันกล่าวหากันชัดๆ ผมจะฟ้องหมิ่นประมาทคุณ
แพนด้า : คุณจะฟ้องผมได้ยังไง ไหนหลักฐาน นี่มันรายการสดนะคุณ
พิธีกร : เอ่อ.. แต่เราก็บันทึกเทปนะครับ คุณแพนด้า
แพนด้า : …
โฟนอิน : โดนแน่ๆ
แพนด้า : ผมว่า เรื่องนี้คุณก็ส่งฟ้องมาแล้วกันครับ แล้วให้ตุลาการเขาตีความ
โฟนอิน : แหม.. ใจกล้านะคุณ
แพนด้า : แต่ถ้าตีความมาผมไม่ผิด ผมฟ้องกลับนะครับ
โฟนอิน : ส่งฟ้องไปผมก็แพ้ ในสายตาสังคม คุณมันคุณชายสะอาดนี่ สองมาตรฐานชัดๆ
พิธีกร : อาจารย์กำลังดูหมิ่นศาลนะครับ
โฟนอิน : นั่นไง ปกป้องกันเข้าไป โธ๋เอ๋ย ถ้าคุณได้รู้เบื้องหลังที่มันมาออกสื่อนะ แล้วพวกคุณ….. ตู๊ดๆๆๆๆๆๆๆ
พิธีกร : รู้สึกสายจะหลุดไปแล้วนะครับ
น่าจะมีสัญญาณแทรกเข้ามาในตอนท้าย (หน้าเสีย)
เป็นเหตุการ์วุ่นวายพอดูเลยนะครับวันนี้ ตอนนี้เรามาพักกันสักครู่
แล้วเดี๋ยวกลับมาพบกับช่วงสุดท้ายของรายการครับ(เฮ้อ…)
ภาพบนจอโทรทัศน์ตัดเข้าโฆษณาปัญญาอ่อนแทบไม่ทัน และสุดท้าย ก็ตัดกลับเข้ามาสู่รายการ
เสียงดนตรีประกอบรายการดังขึ้น แสงไฟสว่างวาบ
พิธีกร : กลับมาพบกับช่วงสุดท้ายของรายการ
"สนทนาประสาสุนัค"นะครับ คำถามสุดท้ายที่ผมอยากถามคุณแพนด้า
เกี่ยวกับข่าวเรื่องคุณพลายพันล้าน
เกี่ยวกับกรณีที่สังคมออกมาวิพากษ์วิจารณ์
ในการที่เขาทาสีเลียนแบบคุณนะครับ
แพนด้า :
เรื่องนี้มันเป็นเรื่องสิทธิพื้นฐานของสัตวชนนะครับ
ผมก็ต้องว่าไปตามสิ่งที่ควรทำ ความจริงผมก็เห็นใจเขานะครับ
แต่เขากำลังเลียนแบบผม มันผิดเรื่องลิขสิทธิ์ และทรัพย์สินทางปัญญา
ผมจะฟ้อง…
.
.
.
"ทำตัวเหมือนคนเข้าไปทุกวัน"
ผมกดปิดโทรทัศน์พร้อมกับสบถเสียงดัง
อ๊อดดดดดด…….
มีคนมากดออดหน้าบ้านผม
"มีพัสดุถึงคุณวรานัสครับ"
ผมแลบลิ้นแล้วเดินไปเปิดประตู..
———————————————————
Status : อินเทรนด์-เป็นหวัด
ติดตาม ตุ้ยนุ้ย โปรเจ็คท์ # ๕ [ตอน…รีโมท] ได้ ที่นี่ วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม 2552
ติดตาม ตุ้ยนุ้ย โปรเจ็คท์ ย้อนหลัง คลิก ที่นี่ ครับ