By The Way–เรื่องเล่าจากข้างทาง

 
 
ในทุกๆเช้าที่คุณลืมตาขึ้นมา…ในเมืองนี้

 
จุดมุ่งหมายของคุณคืออะไร?

 
พื้นที่แห่งไหนที่คุณจะต้องไปให้ถึงในวันนี้

 
โลกใบนี้กำลังหมุนเร็วขึ้นและเร็วขึ้น
 
อะไรกัน…ที่จะทำให้คุณวิ่งทันโลกใบนี้ได้
 

 

ทุกๆเช้าที่ผมลืมตา
 
ผมล้างหน้า…แปรงฟัน…อาบน้ำ…แต่งตัว…และ ก้าวเท้าออกจากบ้าน
 
 
ในเมืองที่รีบเร่ง…สังคมที่เร่งรีบ
 
ผมเอากระเป๋าสตางค์ของผมแตะลงที่เซนเซอร์
 
…ในกระเป๋านั้นมีบัตรโดยสารชนิดเติมเงินของรถไฟฟ้าMRT
 
ยานพาหนะที่พาเราให้หมุนทันโลกที่หมุนเร็วใบนี้
 

 
คนทั่วไปชอบใจที่มันจะเป็นแบบนี้
 
ผมเห็นผู้คนโหยหารถไฟฟ้า…ทั้งลอยฟ้า และใต้ดิน
 
ออกมาเรียกร้องวิ่งเต้น…เพื่อจะให้ยานพาหนะเหล่านี้…ผ่านไปยังพื้นที่ต่างๆที่ตนต้องการ
 
 

…แสวงหาสิ่งที่จะทำให้พวกเขาหมุนทันโลก…

 
 
แต่อะไรเหล่า…ที่พวกเขาต้องสูญเสียไป
 
 
อะไรที่มีคุณ…สิ่งนั้นก็ย่อมมีโทษ
 
 
เมื่อเราเกิดการตัดสินใจก็ต้องเกิด"ค่าเสียโอกาส"เสมอ
 
 
ในเวลาที่โลกยังหมุนช้า
 
เราอาศัยการเดินทางโดยการเดินเท้า…
 
…เราไม่เร่งรีบ
 
…เราไม่ได้หมุนตามโลก
 
อะไรที่เราได้จากการเดินทาง
 
คนโบราณแข็งแรงกว่าคนสมัยนี้ เพราะการเดินเท้า
 
คนในสมัยเรา…ไม่ชอบการเดินเท้า
 
 
 
 
 
โลกที่หมุนช้า…คนที่เดินช้า
 
โลกที่หมุนเร็ว…คนก็ต้องการที่จะไปให้เร็วขึ้น
 
 
 
 
 
แต่เราไม่ได้สูญเสียแค่นั้น…
 
 
 
 
 
 
…ผมรักการเดินทาง และมองเห็นอะไรบางอย่างจากวันนี้
 
 
 
 
 
 
คนเรามักจะใส่ใจกับ"จุดมุ่งหมาย" มากกว่า"วิธีการ"
 
 
 
 
 
เราไม่สนใจว่า เราจะเดินทางด้วยวิธีใด…
 
…ขอให้เราถึงจุดมุ่งหมายโดยเร็วก็พอ…
 
 
 
เราจึงเห็นคนเราในวันนี้…รีบเร่ง…แก่งแย่ง…
 
ทำทุกอย่าง…เพื่อไปยังจุดมุ่งหมายให้เราที่สุด
 
 
 
 
 
 
 
ผมนั่งอยู่ริมหน้าต่างรถเมล์
 
…หน้าต่าง…ที่มีชีวิตคนมากมายภายนอก
 
…ไม่ใช่หน้าต่างที่มีแต่ความมืดสงัด…ภายใต้เมืองใหญ่แห่งนี้
 
 
 
บางครั้งเราเหม่อมองออกไป…
 
…แล้วเกิดรอยยิ้ม
 
…แล้วเกิดน้ำตา
 
…แล้วเกิดความตื่นกลัว
 
…แล้วเกิดความสงสาร
 
 
 
 
 
 
 
ความเร็วของโลกได้พัดพาเอาสิ่งเหล่านี้เลือนหาย…
 
 
 
…เราไม่ได้มองออกจากหน้าต่างอีกต่อไป
 
…เพราะเราเห็นเพียงความมืดมิด…ภายนอกหน้าต่าง
 
 
 
 
 
 
 
 
บางครั้งเส้นทางที่ผมผ่านไป…อาจจะฝากเสียงกระซิบผ่านหน้าต่างมา…
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ผมเลือกที่จะนั่งริมหน้าต่าง…เพื่อฟังเสียงของมันบ้าง เป็นครั้งคราว…
 
 
 
 
 

HFFF–“มาถอยหลังลงคลองกันเถอะ”

นี่อาจจะเป็นการเขียนบล็อกที่แหวกแนวที่สุดที่ผมเคยเขียนมา…
 
ใครที่รับอารมณ์ผมไม่ได้คิดว่า อ่านแล้วจะหงุดหงิดก็เลิกอ่านก็ยังทันนะครับ
 
 
 
 
 
HFFFครั้งที่ผ่านมา…มันเป็นอะไรที่แย่สุดๆ ที่ทำให้ผมถอดใจลากลับบ้านในเวลาไม่ถึง2ชั่วโมง
 
เริ่มตั้งแต่การขายบัตรราคา200บาท ที่ดูเหมือนจะดี เพื่อให้คนที่รักดนตรีได้เข้าไปชมงานจริงๆ
 
…จะได้ไม่มีผีห่าซาตานไปก่อเรื่องให้งานมันล่มเหมือน1-2ปีที่ผ่านมา
 
 
แต่พอมาที่หน้างาน..บัตรฟรี บัตรผี บัตรห่า บัตรเหว เหี้ยอะไรก็ไม่รู้ แม่งเต็มงานไปหมด
 
คนเข้างานก็เลยเหมือนเดิมนั่นแหละ อย่างส้นตีน…แม่งมาฟังเพลงกันจริงเหรอ
 
สรุปแล้ว…ไอ้พวกผีบ้าก็ได้เข้างานเหมือนเดิม…คนฟังเพลงจริงๆก็เหมือนบังคับให้เสียตังค์ แล้วได้ซีดีมาแผ่นนึง
 
 
 
 
—–เหมือนกูอยากจะได้มากนักเลยนะมึง!
 
 
 
ระบบรักษาความปลอดภัยแม่งก็ปัญหาอ่อน….ให้คนถอดเข็มขัดออกหมด
 
ขนาดเข็มขัดหนังธรรมดา แค่มีหัวเข็มขัดมหาลัยแม่งก็ยังจะให้กูถอด—เป็นเหี้ยไรมากป่ะ???
 
บอกแม่งว่า กางเกงจะหลุด แม่งก็ให้ถอดหัวออก ใส่เข้าไปแต่เข็มขัด–เอาส้นตีนเหี้ยไรคิดเนี่ยมึง!
 
 
 
 
เดินไปถอดเข็มขัด–เอาวะ ใจกล้าๆ….ถอดหัวเก็บใส่กระเป๋าสะพาย แล้วเดินกลับเข้าไปให้แม่งตรวจใหม่
 
 
แม่งถลกเสื้อดู ไม่เห็นหัวเข็มขัดแม่งก็ปล่อยให้ผ่าน…
 
 
 
 
…กระเป๋าแม่งก็เสือกไม่ตรวจ!
 
 
 
คราวหน้ากูจะพกมีดใส่กระเป๋าไปฟันหัวพ่อแม่ง!
 
 
 
 
เดินเข้าไปในงาน ป้ายเหี้ยไรก็ไม่ค่อยจะมี…แถมเทศกาลดนตรีเหี้ยไรวะ เสื้อเยอะชิบหาย
 
 
….กูยังคิด– แม่งจะเยอะกว่าซีดีอีกมั้ยเนี่ย???
 
 
เดินไปดูแผนที่หยิบมาถามเท่าไหร่….แม่งบอกฟรี
 
 
พอกูหันหลังจะเดืนออก แม่งตะโกนตาม…ถ้าจะจ่ายก็เอาเงินไปทำบุญกับเต่าทะเลนะค๊าบบบบบบ
 
 
 
 
แม่งก็บอกกูตั้งแต่แรกเด่ะ…ถ้าจะเอาตังค์อ่ะ สาดดดดดดด
 
 
กูว่า ขายแผนที่แล้วเอางั้นทั้งหมดไปทำบุญแทนรับบริจาค แม่งยังฟังดูเวิร์คกว่าอีก
 
 
เดินเหี้ยห่า แอบไปใส่หัวเข็มขัด แม่งก็ไม่มีใครสนใจ…ดีๆรอดตัวไปกู
 
 
กางแผนที่ที่ยิ่งดูยิ่งงงกว่าเดิมอีก…กว่าจะหาที่รับซีดีแฟทโค้ด2ได้
 
รับซีดีเสร็จฝนก็ตกปรอยๆ เจอรุ่นน้องที่ม.ทักทายกันแป๊บนึง
 
ไอ้แพทโทร.มาบอกว่า ให้ไปเจอที่โคตรอินดี้
 
ก็เลยเดินแยกกะรุ่นน้องไป…
 
 
…เดินไปยังไม่ทัน10ก้าว…ฝนแม่งก็เสือกตกอีก
 
 
 
 
เปงเหี้ยไรมากป่ะ
 
วิ่งตาลีตาเหลือกไปหลบฝนหน้าห้องน้ำ…คนแม่งอย่างเยอะ
 
ฝนแม่งก็ตกเกือบทุกปี…ทำไมไม่คิดอะไรเผื่อไว้มั่งวะ
 
คนจะมาเที่ยวงาน…ต้องมายืนเปียกฝน
 
…ไม่มีอารมณ์จะเดินเลย สาดดดดดดดดดด
 
 
 
คนหน้าห้องน้ำแม่งก็ล้นเอาๆ…แม่งเห็นว่า เต็มแล้วก็ยังจะเหี้ยห่าเดินเข้ามาอยู่ได้
 
คนข้างๆแม่งก็ดูงงๆ…เหมือนถือซีดีอินดี้ห่าอะไรไม่รู้…แต่แต่งตัวแม่ง คาราบาว ชัดๆ
 
 
ตกลงแนวไหนหว่า?????
 
 
ฝนแม่งเริ่มซา เหมือนอารมณ์ดีๆของกู ที่ค่อยๆจะหมดไปเหมือนกัน
 
เดืนไปประมาณ10ก้าว ถึงบู๊ทโคตรอินดี้ที่หมาย
 
 
 
แม่งเก็บหมดเลย…เพราะฝนตก
 
 
งานทั้งงานแทบจะหยุดเพราะฝนห่าเมื่อกี้
 
 
…เท่ากับว่า ไม่เหลือเหี้ยไรให้กูเดินดูเลย
 
 
นอกจากบู๊ทค่ายเพลงใหญ่  ที่ได้บู๊ทด้านหน้า มีที่กันฝนดีๆ
 
 
ค่ายเล็กๆที่เป็นทางเลือกอื่นๆ ทยอยเก็บแผงกันไป…ไม่เหลือเหี้ยไรให้ตูเดินดู…ซะงั้นนนนนนนนน
 
 
 
เจอหน้าไอ้แพทกับน้อง…(???) มันก็เลยชวนไปดูเวทีปราสาท บอกว่า วง goose กำลังจะเล่น
 
หลังจากพลาดโอกาสมาหลายครั้ง…กูจะได้ดูซะที ว่าที่ไอ้แพทมันบอกว่าเจ๋งอ่ะ จริงป่ะ
 
 
เดินไปหน้าเวทีเจอคนคุ้นหน้า …พี่เปี๊ยกดีเจสยามเป็นพิธีกรบนเวที
 
พูดๆไปซักพักก็รอว่า เมื่อไหร่จะได้ดู
 
พูดๆไปเกือบสิบนาที….ศิลปินคนต่อไปก็ออกมาขอรับบริจาคเพื่อเต่าทะเล
 
 
 
 
 
 
 
 
 
นภ พรชำนิ!!!!!!!!
 
 
 
 
 
 
 
 
…กูไม่ได้จะมาดูนภนะ T_T
 
 
คุยไปคุยมาได้ความประมาณว่า มีการเลื่อนคิวห่าเหวอะไรไม่รู้ goose น่าจะเล่นไปแล้ว…
 
 
 
เอาวะ พี่นภ ก็ พี่นภ
 
 
ร้องเพลงแรกมาก็งงๆ…เพลงชุดใหม่ ไม่เคยฟัง…ร้องไม่เป็น…แถมไม่ค่อยชอบด้วย
 
 
จบเพลงแรกไปพร้อมด้วยความมึนงง และเสียงกรี๊ดของแม่ยกพี่นภแก…
 
แต่ตอนร้องเพลงนี่เห็นเงียบเลย…ไม่เห็นมีใครร้องตามได้เลย???
 
 
พี่นภบอกทรมานใจสาวๆว่าจะเล่นแค่สามเพลง และเป็นเพลงจากชุดใหม่ทั้งหมด
 
 
 
 
…ทรมาน…….
 
 
 
จบนภ พรชำนิ…ก็เป็นเล็ก สลาลม…
 
เอาน่า ขึ้นด้วย เธอคือความฝัน ก็น่าจะโอเคนะ
 
 
 
 
 
 
อะไรหยดใส่หัวกูหว่า?????
 
 
 
 
 
ฝน…..
 
 
 
มันมาอีกแล้ว
 
 
 
สรุปต้องวิ่งไปที่บู๊ทของกระปุกอะไรไม่รู้ เพื่อหลบฝนอยู่ครึ่งชม.ได้
 
 
รอ…เพื่อจะพบว่า…งานทั้งงานเขาเก็บงานแล้ว
 
 
 
หลบฝนยังไงกูก็ยังเปียก….
 
 
สุดท้าย เราทั้งสาม(ผม ไอ้แพท และน้อง…)ก็เลยตัดสินใจกลับดีกว่า
 
เพราะความเซ็งมันเกินจะอยู่ต่อแล้นนนนนนนนน
 
 
เดินออกมาหน้างานคนเยอะชิบหาย…การ์ดแม่งยังไล่คนให้หลบรถ
 
แทนที่แม่งระบายคนออกเป็นชุดๆ…แล้วปล่อยรถออก(มันมีรถออกมาคันเดียว)
 
แม่งให้คนหลบๆ…สุดท้ายรถก็มาติดอยู่ข้างหน้า…เพราะรถแม่งก็เต็มถนน คนแม่งก็ล้นฟุตบาท
 
เออ…กูไม่มีปัญญาขับรถ กูก็ยังมีปัญหาด่าพวกมึงล่ะ สาดดดดดดดดด
 
 
เดินมาเรื่อยๆจนเจอน้องโบว์อยู่กะแฟน เพื่อนกูก็เสือกโทร.มาพอดีเลยไม่ได้คุยกัน
 
แม่งเรียกกูไปหาที่เซน ลาด
 
 
 
 
เอากูไปซาวน่าเหรอสาดดดดดดด…ตัวเปียกให้กูไปตากแอร์
 
 
สุดท้ายก็แยกย้ายจากคู่รักทั้งสองคู่ ไปรวมตัวก็มวลหมู่ในเซน ลาด
 
 
 
 
 
 
ไอ้เหี้ยกรดก็โทรมาหวังดี ว่ากลับลำบากมั้ย…นอนบ้านกูได้นะ
 
 
 
 
ได้ข่าวว่า กูกลับบ้านอ่ะ ง่ายกว่าไปบ้านมึงอีก
 
 
 
 
 
 
 
หลังจากรวมตัวได้พักใหญ่ๆก็แยกย้ายกันไปตามระเบียบ
 
 
 
 
 
 
 
 
กลับบ้านโดยรถไฟฟ้าใต้ดินในสภาพหนาวสั่น…จากพหลโยธินสู่หัวลำโพง
 
 
 
 
 
พรุ่งนี้ต้องตื่นไปรับน้องมาจากองครักษ์อีก
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ฝากไว้ก่อนนะ 104.5 Fat Radio!!!!!!!!!!!!!!!